แนะนำก่อนไปฉีดวัคซีน covid-19 ต้องหยุดทานยาไมเกรน  ยาแก้หวัดและยาคุมกำเนิด

           มีการออกมาแนะนำจากนายแพทย์ธีรวัฒน์  เกี่ยวกับเรื่องของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิช- โดยระบุว่าในตอนนี้เราจะเห็นได้ว่าผู้ที่รับการฉีดวัคซีนนั้นบางคนมีอาการแพ้และบางคนมีผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนซึ่งอาการที่เราเห็นกันอยู่ในตอนนี้บางคนก็มีอาการเป็นมากบางคนก็มีอาการเป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากว่าใครอยากจะไปฉีดวัคซีนในช่วงเวลานี้และต้องการที่จะลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงให้มากที่สุดจำเป็นที่จะต้องมีการหยุดการใช้ยาบางประเภทดังต่อไปนี้  ยาแก้ไมเกรน   ยาแก้ไข้หวัดและยาคุมกำเนิด

        เหตุผลที่จำเป็นที่ต้องหยุดยาต่างๆเหล่านี้นั่นก็เพราะว่าตู้วัคซีนที่มีการฉีดเข้ามานั้นมันจะส่งผลให้เกิดอาการแพ้ได้และทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรงได้ซึ่งส่วนที่เกิดอาการนั้นจะเป็นบริเวณแถวลิ่มเลือดและเส้นเลือดหดตัว

โดยอาการแพ้หรือผลข้างเคียงเหล่านี้เกิดมาจากยาบางชนิดที่เข้าไปกระตุ้นตัววัคซีนทำให้เกิดอาการรุนแรงมากยิ่งขึ้นซึ่งจากการทำการตรวจสอบและวิจัยพบว่ายาที่สามารถไปกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้หรือมีผลข้างเคียงหลังจากฉีดวัคซีนไวรัส covid แล้วนั่นก็คือยาประเภทกลุ่มยาแก้ไข้หวัดและยาปวดไมเกรนนั่นเอง

       ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าคนที่มีอาการของโรคไมเกรนและคนที่กำลังเป็นหวัดอยู่ยังไม่สมควรที่จะไปทำการรับการฉีดวัคซีนอย่างเด็ดขาดคุณจะต้องรักษาอาการป่วยให้หายเสียก่อน โดยอยางน้อยอาการป่วยควรจะหายประมาณ 14 วัน นั่นหมายถึงว่าคุณหยุดกินยาแก้อาการไมเกรนและยาแก้ไข้หวัดเป็นระยะเวลา 14 วันแล้วค่อยไปรับการฉีดวัคซีนป้องกัน covid นั่นเอง

       สำหรับผู้หญิงที่กินยาคุมกำเนิดนั้นจำเป็นที่จะต้อง หยุดกินยาคุมก่อนด้วยเช่นเดียวกันโดยการหยุดกินยาคุมนั้นควรจะต้องอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 14 วันเช่นเดียวกันเนื่องจากว่ายาคุมนั้นเป็นยาที่ควบคุมเกี่ยวกับเรื่องของฮอร์โมนในร่างกายซึ่งตัวฮอร์โมนนี้จะไปกระตุ้นการทำงานของวัคซีนป้องกันโควิตดังนั้นหากมีการกินยาคุมและมีการฉีดวัคซีนเข้าไปมีความเสี่ยงเป็นไปได้สูงที่อาจจะมีอาการของการแพ้หรือมีผลข้างเคียงหลังจากฉีดวัคซีนแล้วนั่นเอง 

       สำหรับวัคซีนที่กำลังฉีดในประเทศไทยอยู่ในขณะนี้พบว่าผู้ที่ฉีดนั้นมีอาการข้างเคียงหลังจากที่มีการฉีดแล้วจำนวนหลายรายซึ่งบางรายนั้นมีผลข้างเคียงเพียงแค่ประมาณ 2-3 วันอาการก็ดีขึ้นและหายไปเองแต่บางคนนั้นก็มีอาการข้างเคียงรุนแรงซึ่งบางครั้งก็ทำให้เสียชีวิตได้เช่นเดียวกันดังนั้นถ้าหากว่ามีอาการป่วยทั้ง 2  อาการที่แจ้งไปข้างต้นควรจะรักษาให้หายเสียก่อนแล้วเว้นไว้สักครึ่งเดือนค่อยไปทำการฉีดวัคซีนจะเป็นการลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงได้มากที่สุด

 

สนับสนุนโดย    หาเงินจากหวยหุ้น